นิสัยtoxic คืออะไร

นิสัยtoxic (Toxic Traits) คือ รูปแบบพฤติกรรมหรือความคิดที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และมักสร้างผลกระทบในเชิงลบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพจิต อารมณ์ และความสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่กับผู้ที่แสดงพฤติกรรมนั้น แต่รวมถึงคนรอบข้างด้วย คำว่า Toxic (เป็นพิษ) แสดงให้เห็นถึงลักษณะที่กัดกร่อนและทำลายล้าง คล้ายกับสารพิษที่ค่อยๆ บั่นทอนสิ่งมีชีวิต

ตอนที่ 1 :  รูปแบบของนิสัยtoxicที่พบบ่อย

ตอนที่ 2 : ผลกระทบของนิสัยtoxicพิษร้ายที่มองไม่เห็น

ตอนที่ 3 : ต้นตอของนิสัยtoxic

ตอนที่ 4 : วิธีจัดการและก้าวข้ามเปลี่ยนพิษให้เป็นพลังบวก

ตอนที่ 5 : สรุป

รูปแบบของ นิสัยtoxic ที่พบบ่อย

นิสัยtoxic

1.) การควบคุมและบงการ

  • ลักษณะ: พยายามควบคุมความคิด การกระทำ หรือแม้แต่อารมณ์ของผู้อื่น มักใช้การชี้นำทางอ้อม การกดดัน หรือแม้แต่การหลอกล่อเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ อาจมีการบิดเบือนความจริง (Gaslighting) เพื่อให้ผู้อื่นสับสนและไม่มั่นใจในตัวเอง
  • ผลกระทบ: ผู้ถูกควบคุมจะรู้สึกอึดอัด สูญเสียความเป็นอิสระ และความนับถือในตนเองลดลง ความสัมพันธ์ขาดความไว้วางใจและสมดุล

2.) การเป็นเหยื่อ

  • ลักษณะ: มักจะแสดงออกว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำอยู่เสมอ โทษสถานการณ์ โชคชะตา หรือผู้อื่นสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเอง ไม่ยอมรับผิดชอบต่อการกระทำหรือการตัดสินใจของตนเอง และมักจะเรียกร้องความสงสารหรือความเห็นใจ
  • ผลกระทบ: ทำให้ผู้อื่นรู้สึกเหนื่อยหน่ายและเบื่อหน่ายที่ต้องคอยรับฟังคำบ่นหรือปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ยังขัดขวางการเติบโตส่วนบุคคลของผู้ที่มีนิสัยนี้เอง เพราะไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาดเรียนรู้รวมความผิดพลาดแล้วทำสถิติเล่น หวยไว

3.) การวิจารณ์เชิงลบตลอดเวลา/มองโลกในแง่ร้าย 

  • ลักษณะ: ไม่ว่าจะพูดถึงตัวเอง ผู้อื่น หรือสถานการณ์ต่างๆ มักจะมองเห็นแต่ข้อเสีย วิจารณ์ ติเตียน หรือบ่นอยู่เสมอ ไม่แสดงความยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น และอาจจะใช้คำพูดเชิงดูถูกหรือลดทอนคุณค่า
  • ผลกระทบ: สร้างบรรยากาศที่อึดอัด หดหู่ และเป็นพลังงานลบ ทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง สูญเสียความมั่นใจ และไม่อยากเข้าใกล้

4.) การไม่เคารพขอบเขตส่วนตัว

  • ลักษณะ: ไม่สนใจหรือไม่ยอมรับขอบเขตส่วนตัวที่ผู้อื่นกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา พื้นที่ส่วนตัว ข้อมูลส่วนตัว หรือการตัดสินใจของผู้อื่น อาจมีการบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว ถามเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควร หรือเรียกร้องสิ่งที่เกินเลย
  • ผลกระทบ: ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ปลอดภัย ถูกรุกล้ำ และไม่ได้รับการเคารพในฐานะบุคคล อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความอึดอัดใจในความสัมพันธ์

5.) การขาดความรับผิดชอบและไม่ยอมขอโทษ

  • ลักษณะ: เมื่อเกิดความผิดพลาดหรือปัญหา มักจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ โยนความผิดให้ผู้อื่น และไม่เคยเอ่ยคำว่า “ขอโทษ” อย่างจริงใจ หรือหากขอโทษก็เป็นเพียงการปัดความรับผิดชอบมากกว่าสำนึกผิด
  • ผลกระทบ: ทำลายความไว้วางใจในความสัมพันธ์ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการเคารพหรือเห็นคุณค่า และทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง

6.) การแสวงหาความสนใจมากเกินไป

  • ลักษณะ: ต้องการเป็นจุดสนใจอยู่ตลอดเวลา อาจทำพฤติกรรมแปลกๆ สร้างเรื่องดราม่า หรือโอ้อวดเกินจริง เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น หากไม่ได้รับความสนใจก็จะรู้สึกไม่พอใจ
  • ผลกระทบ: ทำให้คนรอบข้างรู้สึกเหนื่อยหน่าย รำคาญ และอาจทำให้ความสัมพันธ์ดูฉาบฉวย ไม่ลึกซึ้งจริงใจ

7.) ความหึงหวงหรือครอบงำมากเกินไป

  • ลักษณะ: แสดงความหึงหวงหรือต้องการครอบครองผู้อื่นในระดับที่เกินปกติ อาจพยายามกีดกันอีกฝ่ายออกจากเพื่อนหรือครอบครัว ตรวจสอบความเป็นส่วนตัว หรือไม่ไว้วางใจโดยไม่มีเหตุผล
  • ผลกระทบ: ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกกักขัง หายใจไม่ออก และความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความตึงเครียดและไม่ไว้วางใจ

ผลกระทบของ นิสัยtoxic พิษร้ายที่มองไม่เห็น

1.) ผลกระทบต่อสุขภาพจิต

  • ความเครียดเรื้อรังและความวิตกกังวล: การต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีนิสัย Toxic หรือการที่ตัวเองมีนิสัย Toxic มักจะนำไปสู่ความเครียดสะสม เพราะต้องเผชิญกับความขัดแย้ง ความไม่แน่นอน หรือการถูกโจมตีทางอารมณ์อยู่เสมอ ซึ่งอาจพัฒนาไปสู่โรควิตกกังวลได้
  • ภาวะซึมเศร้าและหมดไฟทางอารมณ์: ความรู้สึกเหนื่อยล้า ไร้เรี่ยวแรง และหมดกำลังใจ เป็นผลพวงจากการถูกดูดพลังงานทางอารมณ์ไปจนหมดสิ้น อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า หรือภาวะหมดไฟ โดยเฉพาะในบริบทความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
  • ความนับถือในตนเองต่ำ (Low Self-Esteem) และความไม่มั่นใจในตัวเอง: การถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ การถูกบงการ หรือการถูกทำให้รู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา สามารถกัดกร่อนความมั่นใจในตนเอง ทำให้รู้สึกด้อยค่า ไม่ดีพอ หรือสงสัยในความสามารถของตัวเอง
  • การตั้งคำถามกับความเป็นจริง (Gaslighting): นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของการบงการที่ทำให้ผู้ถูกกระทำเริ่มตั้งคำถามกับความทรงจำ การรับรู้ และสภาวะทางจิตใจของตัวเอง ทำให้ไม่สามารถแยกแยะความจริงกับสิ่งที่ถูกบิดเบือนได้

2.) ผลกระทบต่อความสัมพันธ์

  • ความไม่ไว้วางใจ: นิสัย Toxic เช่น การโกหก การบิดเบือนความจริง การนินทา หรือการไม่รับผิดชอบ จะทำลายความไว้วางใจ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของทุกความสัมพันธ์ที่ดี
  • ความขัดแย้งและปัญหาเรื้อรัง: ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยนิสัย Toxic มักจะมีปัญหาและความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างแท้จริง และอาจวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิมๆ
  • ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงและเปราะบาง: การทะเลาะเบาะแว้ง การเลิกราแล้วกลับมาคืนดีบ่อยครั้ง ทำให้ความสัมพันธ์ไม่มั่นคงและสร้างความเหนื่อยหน่ายให้กับทั้งสองฝ่าย
  • การแยกตัวออกจากสังคม (Social Isolation): ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของนิสัย Toxic อาจถูกกีดกันออกจากเพื่อน ครอบครัว หรือกลุ่มสังคมที่สนับสนุน เพื่อให้ผู้ที่มีนิสัย Toxic สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ หรือในทางกลับกัน ผู้ที่มีนิสัย Toxic เองก็อาจถูกคนรอบข้างตีตัวออกห่าง ทำให้โดดเดี่ยว
  • การพึ่งพาอาศัยกันในทางที่ไม่ดี (Unhealthy Dependence): บางครั้งผู้ถูกกระทำอาจรู้สึกไม่กล้าที่จะเดินออกจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ เพราะถูกทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง หรือถูกบงการให้รู้สึกว่าต้องพึ่งพาอีกฝ่าย

3.) ผลกระทบต่อการทำงาน/ชีวิตประจำวัน

  • ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: ความเครียดและความกังวลที่เกิดจากนิสัย Toxic (ไม่ว่าจะของตัวเองหรือเพื่อนร่วมงาน) สามารถส่งผลกระทบต่อสมาธิ แรงจูงใจ และประสิทธิภาพในการทำงาน
  • บรรยากาศการทำงานที่เป็นพิษ: หากมีพนักงานที่มีนิสัย Toxic ในองค์กร อาจทำให้เกิดการนินทา ความไม่ไว้วางใจ การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และลดขวัญกำลังใจโดยรวม
  • ความขัดแย้งในที่ทำงาน: นิสัย Toxic เช่น การชอบควบคุม การโทษผู้อื่น หรือการไม่รับผิดชอบ มักนำไปสู่ความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานและผู้บริหาร
  • โอกาสก้าวหน้าน้อยลง: การมีนิสัย Toxic อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ทำให้พลาดโอกาสในการเติบโตหรือได้รับการยอมรับ

4.) การขัดขวางการเติบโตส่วนบุคคล

  • การปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง: ผู้ที่มีนิสัยแบบนี้มักจะยึดติดกับความคิดเดิมๆ และปฏิเสธการเรียนรู้หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้ไม่สามารถพัฒนาตนเองได้
  • การขาดการเรียนรู้จากความผิดพลาด: หากไม่ยอมรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ก็จะไม่มีโอกาสได้ทบทวนและเรียนรู้จากความผิดพลาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโต
  • มุมมองที่จำกัด: การมองโลกในแง่ลบ หรือการเป็นเหยื่อ จะทำให้มองเห็นโอกาสและทางออกได้น้อยลง จำกัดศักยภาพในการพัฒนาตนเอง
  • พลังงานที่ถูกดูดไปใช้: การที่ต้องรับมือกับนิสัยแบบนี้ (ไม่ว่าจะของตัวเองหรือผู้อื่น) จะใช้พลังงานมหาศาล ทำให้เหลือพลังงานน้อยลงในการทำสิ่งที่สร้างสรรค์หรือพัฒนาตัวเองในการเล่น หวยไว

ต้นตอของ นิสัยtoxic

นิสัยtoxic

ต้นกำเนิด นิสัยtoxic

  • บาดแผลวัยเด็ก/ประสบการณ์ลบในอดีต: การถูกทารุณกรรม ถูกละเลย หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษในวัยเด็ก
  • ปัญหาทางสุขภาพจิตที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข: เช่น ความนับถือในตนเองต่ำ, ความไม่มั่นคงภายใน, หรือโรคลักษณะบุคลิกภาพบางชนิด
  • การเรียนรู้และเลียนแบบ: ซึมซับพฤติกรรม Toxic มาจากคนรอบข้างหรือต้นแบบในชีวิต
  • ขาดทักษะการจัดการอารมณ์/สังคม: ไม่รู้วิธีสื่อสารหรือจัดการความสัมพันธ์อย่างเหมาะสม
  • ความเครียดและสถานการณ์กดดันปัจจุบัน: ปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นออกมา

วิธีจัดการและก้าวข้ามเปลี่ยนพิษให้เป็นพลังบวก

นิสัยtoxic

เปลี่ยนนิสัย Toxic เป็นพลังบวก (ฉบับเร่งรัด)

  1. รู้ตัวและยอมรับ: สำคัญสุด! รู้ว่าเรามีนิสัยแบบไหนที่สร้างปัญหา ยอมรับ ว่ามันมีอยู่จริง
  2. หาต้นตอ: ลองคิดดูว่าทำไมเราถึงมีนิสัยนี้? เคยเจออะไรมา? หรือแค่ไม่รู้วิธีจัดการอารมณ์?
  3. ฝึกควบคุม: เมื่อเริ่มรู้สึกว่าอารมณ์จะมา ให้ หยุด หายใจลึกๆ แล้วลองคิดก่อนจะพูดหรือทำ
  4. สื่อสารดีขึ้น: พูดในสิ่งที่ เรา รู้สึก (เช่น “ฉันรู้สึกเสียใจ…”) แทนที่จะโทษคนอื่น และ ฟัง คนอื่นให้มากขึ้น
  5. ตั้งขอบเขต: ปกป้องตัวเองด้วยการบอกว่าอะไรที่รับได้ อะไรที่รับไม่ได้ ทั้งกับตัวเองและคนอื่น
  6. ดูแลตัวเอง: หาอะไรที่ชอบทำ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้พอ ช่วยลดความเครียดได้

สรุป

การที่เข้าพาตัวเองออกมาจากคนToxicเป็นอะไรที่จะทำให้สุขภาพจิตเราดีขึ้นไปด้วยแต่อย่าลืมเช็คตัวเองนะว่าเป็นเราเองหรือเปล่าที่Toxicใส่คนอื่น ถ้าเป็นเราเองก็แก้ไขนิสัยตรงนั้นซะ! ก่อนจะไม่มีใครอยากอยู่ด้วยครับ